วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

มะละกอกวน

มะละกอกวน

ส่วนประกอบมะละกอกวน

มะละกอดิบ 2-3 ผล
น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
วิธีทำมะละกอกวน
1. ปอกเปลือกมะละกอ ล้างยางออกผึ่งให้แห้งและใช้เครื่องไสๆเป็นเส้น ตวงมะละกอ 2 ถ้วย ใช้น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
2. เคล้ามะละกอกับน้ำตาล เติมนำเปล่านิดหน่อยใส่กระทะตั้งไฟปานกลาง กวนไปจนค้นเหนียวก็ใช้ได้ยกลง ตักใส่ภาชนะตามความประสงค์ ใช้ทานเป็นขนมหวานและทาขนมปังรับประทานอร่อยดี
หมายเหตุ ถ้าใช้มะละกอสุก กวนอย่างเดียวกับฟักทองหรือเผือก

เค้กเผือก

เค้กเผือก

ส่วนประกอบเค้กเผือก

แป้งสาลีทำเค้ก 200 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
เกลือ 1/4 ช้อนชา
เนยสด 150 กรัม
มาการีน 50 กรัม
น้ำตาลทราย 200 กรัม
ไข่ไก่ 3 ฟอง
นมข้นจืด 50 กรัม
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
เผือกนึ่ง (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ) 200 กรัม
วิธีทำเค้กเผือก
ร่อนแป้งพร้อมผงฟู และเกลือแล้วพักไว้ ตีเนยสดพร้อมน้ำตาลทรายจนขึ้นฟู แล้วจึงใส่ไข่ไก่ทีละฟองผสมให้เข้ากัน ตามด้วยแป้ง นม กลิ่นวานิลลา เผือก ผสมให้เข้ากันแล้วเทใส่พิมพ์ อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 45 นาที หรือจนสุก

ถุงทอง

ถุงทอง

เครื่องปรุง-ส่วนผสมถุงทอง
- แผ่นแป้งปอเปี้ยะ
- กุ้งแชบ๊วยสับหยาบ 300 กรัม
- มันหมู 1/3 ถ้วย
- แห้วต้มหั่นลูกเต๋า 1/3 ถ้วย
- แครอทต้มหั่นลูกเต๋า 1/3 ถ้วย
- รากพริกชี พริกไทย กระเทียม โขลกละเอียด 2 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
- ต้นหอม 4 ต้น
- น้ำจิ้มบ๊วย
- น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำถุงทอง
1. เริ่มจากการทำไส้ของถุงทอง โดยนำกุ้งแชบ๊วยสับหยาบ มาผสมกับมันหมู แห้ว แครอท รากพริกชี พริกไทย กระเทียมที่โขลกละเอียดแล้ว ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว นวดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน พักไว้
2. ตั้งน้ำให้ร้อน นำต้นหอมที่เตรียมไว้ไปลวกน้ำ จากนั้นนำขึ้นพักไว้ให้สะเด็ด
3. ห่อถุงทอง ด้วยการนำไส้ที่เตรียมไว้ ตักวางลงบนแผ่นแป้งปอเปี๊ยะ จากนั้นจับจีบขึ้นไปให้มีลักษณะคล้ายถุง มัดด้วยต้นหอมลวก ทำเช่นนี้จนหมด
4. ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อนจัด ก่อนหรี่ไฟลงเหลือครึ่งหนึ่ง จากนั้นนำถุงทองที่เตรียมไว้ลงไปทอดจนมีสีเหลืองทอง เมื่อสุก ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
5. ยกเสิร์ฟ พร้อมน้ำจิ้มบ๊วย และผักสดอย่างแตงกวา และผักกาดหอม

ไข่ดาว3รส

ไข่ดาว3รส

ส่วนผสมไข่ดาวสามรส
ไข่เป็ด 2 ฟอง
น้ำมันพืช 1 ถ้วย
เห็ดฟาง หรือเห็ดกระป๋องหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 1/2 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าแดง เขียว หั่นเป็นแว่น อย่างละ 1 เม็ด
กระเทียมสับละเอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู 1/2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีสำหรับโรยหน้า

วิธีทำไข่ดาวสามรส
ทอดไข่ดาว พยายามให้กรอบนอก นุ่มใน โดยตอกไข่ลงกระทะขณะที่น้ำมันร้อนๆ พอสุกตักขึ้น
ใช้น้ำมันที่เหลือจากกระทะใส่พอติดกระทะ ใส่กระเทียมลงเจียวพอหอม ใส่พริกชี้ฟ้า เห็ด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำส้มสายชู ตักราดไข่ โรยพริกไทยและผักชีตามชอบ

แกงส้มญวณ

แกงส้มญวณ

เครื่องปรุงแกงส้มญวน

ปลาช่อน หนัก 500 กรัม 1 ตัว
สับปะรดหั่นหนา 1 ซม. 1 ชิ้น
มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง 5 ลูก
ขิงหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
มะนาว 1 ชิ้น
ผักชีฝรั่งซอย 2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวนทุบ 5 เม็ด
กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
มะขามเปียกคั้นใสๆ 1/4 ถ้วย
น้ำซุป 4 ถ้วย
วิธีทำแกงส้มญวน
1. ขอดเกล็ดปลา ผ่าท้องควักไส้ออก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 ซม. พักไว้
2. ใส่น้ำซุปลงในหม้อ ตั้งไฟ ใช้ไฟกลาง พอเดือดใส่สับปะรด ขิง มะเขือเทศ ปลาช่อน พอปลาสุก
3. ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำมะขามเปียก น้ำปลา เกลือ เคี่ยว 2 นาที ใส่ผักชีฝรั่งพอสุกเขียว บีบมะนาว โรยด้วยกระเทียมเจียว พริกขี้หนูทุบ ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟ

วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สาคูแคนตาลูป

สาคูแคนตาลูป

เครื่องปรุงสาคูแคนตาลูป
สาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วย
แคนตาลูป 1 ลูก
กะทิ 1 ½ ถ้วย
น้ำตาลทราย ¾ ถ้วย
น้ำเปล่า 3 ½ ถ้วย
เกลือป่น ½ ช้อนชา
วิธีทำสาคูแคนตาลูป
1. นำแคนตาลูปมาผ่าครึ่ง ควักไส้ออกแล้วตักเป็นลูกกลมๆ พักไว้
2. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง นำน้ำตาลทรายใส่หม้อใส่น้ำลงไปประมาณ ½ ถ้วย คนให้น้ำตาลละลายเป็นน้ำเชื่อม ตั้งไฟจนน้ำเชื่อมเดือดสักพักก็ยกลง เทใส่ถ้วย พักไว้
3. นำกะทิใส่หม้อแล้วนำมาตั้งเตาที่ไฟปานกลางต่อ รอจนกะทิเดือดก็ใส่เกลือลงไป ตั้งไฟจนกะทิเดือดสักพักก็ยกลง เทใส่ถ้วย พักไว้
4. นำสาคูใส่กระชอนไปล้างผ่านน้ำ (ไม่ต้องคนนะคะ) และสะเด็ดน้ำพักไว้ จากนั้น เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ใส่น้ำลงไปประมาณ 3 ถ้วย รอจนน้ำเดือดก็ใส่สาคูลงไป หมั่นคนเรื่อยๆ
5. เมื่อสาคูเริ่มสุกก็ลดไฟลงเหลือไฟอ่อน (สังเกตว่ารอบนอกสาคูจะใสขึ้นและสาคูเริ่มหนืด) คนไปเรื่อยๆ สักพักจนสาคูสุกใสก็ปิดเตาและยกลงได้
6. นำสาคูที่ได้มาใส่กระชอน นำไปล้างน้ำเอาเมือกแป้งออกแล้วจึงนำมาใส่ถ้วยไว้ จากนั้น เอาน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้เทใส่ลงไป คนให้น้ำเชื่อมและสาคูเข้ากัน ชิมรสหวานตามชอบ
7. ตักสาคูใส่ถ้วย นำแคนตาลูปที่เตรียมไว้ใส่ลงไป ตักกะทิราดลงไป คนให้เข้ากัน
8. ราดหน้าด้วยกะทิอีกครั้ง จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ

ขนมเต่า

ขนมเต่า

ส่วนประกอบขนมเต่า

ถั่วเขียวเราะเปลือกนึ่งสุก(ถ้าใช้ถั่วดิบประมาณ50กรัม)
น้ำสะอาด
มะพร้าว200กรัมคั้นไม่ใส่น้ำได้กะทิ1/2ถ้วย
น้ำตาลทราย
สีใส่อาหารสีแดง
แป้งข้าวเหนียวอบเทียนอบ

วิธีทำขนมเต่า

1.ถั่วผสมกับกะทิกวนจนเกือบแห้ง ใส่น้ำตาลกวนต่อไปพอปั้นได้ ปั้นเป็นก้อนกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง1/2นิ้ว
2.ผสมน้ำกับสีตั้งไฟให้เดือดใส่ลงในแป้ง ใช้ช้อนไม้คนเร็วๆและแรงจนแป้งเหนียวเข้ากันดี ทิ้งไว้ให้เย็นพอปั้นได้ ปั้นก้อนกลมใหญ่กว่าไส้เล็กน้อย แผ่แป้งออกหุ้มไส้ให้มิด ใช้พิมพ์กดออกมาเป็นรูปเต่าหรือรูปต่างๆ นำไปนึ่งให้สุก ขณะจะนำไปนึ่งใช้กะทิพรมบนผ้าขาวบางเสียก่อนจึงวางขนมลงไปแล้วนำไป

ทอดอาหารไม่ให้อมน้ำมัน

อาหารอมน้ำมัน

ไม่มีคุณแม่บ้านคนไหนที่จะปฏิเสธนะครับว่า อาหารที่เป็นที่โปรดปรานของลูกๆ และหลายคนในครอบครัวนั้น (รวมคุณๆ แม่บ้านด้วยก็เถอะ) รับรองว่าต้องหนีไม่พ้นเรื่องทอดๆ แน่ๆ เลย ก็แหม...กรอบ หอม อร่อย ซะขนาดนั้น แต่กัดทีเนี่ย น้ำมันเยิ้มเต็มปาก (หรือบางทีพุ่งปรี๊ด..ด..ออกมาก็มี) แล้วผลเสียก็คือ เพิ่มไขมันส่วนเกินต่อร่างกาย ยิ่งอาหารที่ทอดแล้วอมน้ำมันด้วย ใช้กระดาษซับน้ำมันก็ช่วยไม่ได้มาก
นี่เลยครับ เคล็ดลับก่อนทอดคุณๆ ก็ลองใส่น้ำส้มสายชูลงในน้ำมันประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ เท่านี้เอง.. ของที่คุณทอดก็จะไม่อมน้ำมันอีกแล้วล่ะ ไว้ลองทำกันดูนะครับ หรือแม่บ้านท่านไหนมีวิธีอื่นที่เด็ด ใหม่กว่านี้มาบอกต่อกันก็ได้นะครับ น่า...ถือว่าช่วยๆ กัน!!!!!

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ไข่เจียวใบตอง

 

ส่วนผสมไข่เจียวใบตอง

-ไข่ไก่หรือไข่เป็ด 3 ฟอง
- หอมเล็กซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- แครอทขูดฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาและซีอิ้วอย่างละ 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่นเล็กน้อย
- แครอทขูดและใบโหระพาซอย สำหรับโรยหน้า
- ใบตองสดประมาณ 4 แผ่นใหญ่

ไข่เจียวใบตอง

วิธีทำไข่เจียวใบตอง

1. ตอกไข่ใส่ชาม ใส่หอมเล็ก แครอท ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ้ว พริกไทย ตีให้เข้ากัน
2. ใส่น้ำในกระทะประมาณ 2/3 ถ้วย (ให้พอปริ่มๆ ใบตอง เมื่อไข่สุกน้ำในกระทะต้องไม่แห้งจนกระทะไหม้) วางใบตองสองแผ่น แล้วเทไข่ลงบนใบตอง โรยหน้าด้วยแครอทและใบโหระพาซอย ปิดด้วยใบตองสองแผ่นที่เหลือ แล้วปิดฝากระทะตั้งไฟนานประมาณ 7-10 นาที จนไข่สุก จะเสิร์ฟบนใบตองหรือจัดใส่จานก็ได้

เกี๊ยวซ่า

 

เกี๊ยวซ่า

ส่วนผสมเกี๊ยวซ่า
1. แป้งเกี๊ยวซ่า (หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป)
2. เนื้อไก่สับ 3 ขีด
3. กะหล่ำปลีซอยละเอียด 1 ขีด
4. แครอทซอยละเอียด 1 ขีด
5. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
6. เหล้าจีนเล็กน้อย
7. น้ำมันงา 1 ช้อนชา
8. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
9. ขิงขูด 1/2 ช้อนชา
10. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
11. ซอสเปรี้ยว(จิ๊กโฉ่)
วิธีทำเกี๊ยวซ่า
1. นำเนื้อไก่สับ กะหล่ำปลีซอยละเอียด แครอทซอยละเอียด ต้นหอมซอย ขิงขูด ซีอิ๊วขาว เหล้าจีน น้ำมันงา น้ำตาลทราย มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นตักส่วนผสมที่เข้ากันแล้ววางลงบนแป้งเกี๊ยวซ่า ใช้นำแตะที่ปลายด้านหนึ่งของแป้ง พับครึ่ง และจับจีบปิดให้สนิท ห่อจนไว้หมด
2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย นำเกี๊ยวซ่าลงไปทอดด้วยไฟแรง ให้ด้านหนึ่งเป็นสีน้ำตาล จากนั้นหรี่ไฟ เติมน้ำลงในกระทะประมาณ 1/4 ถ้วย นึ่งแป้งไว้ประมาณ 3-4 นาที โดยใช้ไฟอ่อนๆ
3. ตักเกี๊ยวซ่าขึ้นใส่จาน ทานคู่กับซอสเปรี้ยว หรือจิ๊กโฉ่

วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2552

เมล็ดบัวสอดไส้

เมล็ดบัวสอดไส้

ส่วนผสมแป้ง
เมล็ดบัวต้มสุกบดละเอียด 1 ถ้วยตวง
แป้งสาลีร่อนแล้ว 1/4 ถ้วยตวง

ส่วนผสมหน้ากุ้ง

กุ้งสดสับละเอียด 3/4 ถ้วยตวง
มะพร้าวขูดขาว 100 กรัม
พริกไทยเม็ด 1/2 ช้อนชา
รากผักชีหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
ใบมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับผัดไส้,สีผสมอาหารสีส้มหรือแสด
น้ำมันสำหรับทอด
เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมอาจาด
น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนชา
แตงกวา 3 ผล
หัวหอมซอย 20 กรัม
พริกแดง 1 เม็ด
ผักชี 1 ต้น
วิธีทำหน้ากุ้ง
1. ล้างกุ้ง ปอกเปลือก ผ่าหลัง ดึงไส้ดำออก สับให้ละเอียด
2. คลุกมะพร้าวขูดขาวกับสีผสมอาหาร ให้เข้ากัน ใส่กุ้งที่สับไว้แล้วคลุกให้เข้ากัน
3. โขลกพริกไทยให้ละเอียดใส่รากผักชี โขลกรวมกันจนละเอียด
4. ใบมะกรูด ฉีกก้านกลางออก นำมาซ้อนกันม้วนให้กลมแล้วหั่นฝอย
5. น้ำมันใส่กระทะตั้งไฟ ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงผัดจนหอม ใส่กุ้งลงผัดจนสุก ปรุงด้วยเกลือป่น น้ำตาลทราย รสค่อนข้างจัดรสดีแล้วใส่ใบมะกรูด ผัดให้เข้ากัน พักให้เย็น
6. ผสมแป้งกับเมล็ดบัวบดให้เข้ากันใส่น้ำเล็กน้อยจนพอปั้นได้ ห่อด้วยไส้ที่ผัดไว้แล้ว นำไปทอดพอเหลือง จัดเสิร์ฟกับอาจาด

ไก่ตุ๋นเยื่อไผ่

ไก่ตุ๋นเยื่อไผ่

ส่วนผสมไก่ตุ๋นเยื่อไผ่
ไก่ 1 ตัว
เห็ดหอมแช่น้ำให้นุ่ม 8 ดอก
เครื่องยาจีน 1 ชุด
น้ำเปล่า 5 ถ้วยตวง
เยื่อไผ่แช่น้ำ 150 กรัม
ซีอิ๊วขาว 5 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำไก่ตุ๋นเยื่อไผ่
1. นำไก่ เห็ดหอม เครื่องยาจีน น้ำเปล่า เยื่อไผ่ ซีอิ๊วขาว และพริกไทยป่น ใส่หม้อต้มให้เดือดด้วยไฟแรง
2. หรี่ไฟลง เคี่ยวต่อจนไก่เปื่อยนุ่ม

วุ้นตะไคร้ลอยแก้ว

วุ้นตะไคร้ลอยแก้ว

ส่วนประกอบวุ้นตะไคร้ลอยแก้ว
น้ำตะไคร้ต้มจนมีกลิ่นหอม 650 ซีซี
น้ำตาลทราย 100 กรัม
ผงวุ้นสำหรับทำขนม 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
น้ำเชื่อม 200 ซีซี
น้ำแข็งบดตามชอบ
ตะไคร้, ใบสะระแหน่, เชอร์รี่แดงสำหรับแต่ง
วิธีทำวุ้นตะไคร้ลอยแก้ว
ผสมทุกอย่างใส่ภาชนะ ต้มจนเดือด เทใส่พิมพ์ พักไว้จนวุ้นทรงตัวดี แช่เย็นจนถึงเวลารับประทาน
วิธีรับประทานวุ้นตะไคร้ลอยแก้ว
ขูดวุ้นเป็นเส้นตักใส่ภาชนะ เติมน้ำเชื่อม น้ำแข็งบด แต่งด้วย ตะไคร้ เชอร์รี่แดง ใบสะระแหน่

โค้กทอด

โค้กทอด

เจ้าของ ไอเดีย “โค้กทอด” คือ อเบล กองซาเลส นักวิเคราะห์หนุ่มวัย 36 ปี จากดัลลัส
ซึ่งเขาสามารถ พิชิตรางวัลสุดยอด ไอเดีย สร้างสรรค์ ในงานมหกรรมอาหารที่รัฐเท็กซัสได้สำเร็จ
หลังโชว์ ไอเดีย บรรเจิดคิดค้นเมนูใหม่แหวกแนว “โค้กทอด” ออกมาให้นักชิมได้ลิ้มลอง
“มันรสชาติเยี่ยมมาก” ซู กูดดิง โฆษกหญิงของงานมหกรรมอาหารแห่งรัฐเท็กซัสกล่าว
วิธีทำโค้กทอด
1. ใช้ส่วนผสมของ แป้งกับน้ำโค้กมาผสมให้เข้ากัน
2. ปั้นเป็นลูกกลมๆ จนขนาดเท่าลูกปิงปอง
3. จากนั้นก็นำไปทอดในน้ำมันจนได้ที่ จึงนำมาใส่แก้ว
4. แต่งหน้าด้วยวิปครีม ราดด้วยน้ำเชื่อมสตรอเบอรี
5. ตกแต่งด้วยผลสตรอเบอรีอีกเล็กน้อย เพียงเท่าก็เรียบร้อยแล้ว

บัวลอยสอดไส้งาดำน้ำขิง

บัวลอยสอดไส้งาดำน้ำขิง

ส่วนผสมบัวลอยสอดไส้งาดำน้ำขิง
แป้งข้าวเหนียว 2 1/2 ถ้วยตวง
น้ำร้อน 3/4 ถ้วยตวง
งาดำคั่วบดละเอียด 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย ( ส่วนที่ 1) 1 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช 6 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 3 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2) 3/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วยตวง
ขิงแก่ทุบ 2 แง่ง
วิธีทำบัวลอยสอดไส้งาดำน้ำขิง
1. ผสมงาดำ น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 1) น้ำมันพืช กวนไฟอ่อน ๆ จนเหนียว พักให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดตามต้องการ
2. ตั้งน้ำให้เดือด ยกลง ใส่แป้ง 1 ถ้วยตวง คนเร็ว ๆ พักไว้พออุ่น นำแป้งส่วนที่เหลือผสมนวดให้เนียน
3. ปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลมใหญ่กว่าไส้เล็กน้อย แผ่เป็นแผ่นบาง หุ้มไส้ให้มิด
4. นำไปใส่น้ำเดือด พอสุกแป้งลอยตักขึ้นแช่น้ำเย็น
5. ตั้งน้ำเปล่ากับขิง พอเดือดให้รสเผ็ดขิงเล็กน้อย กรองเอาแต่น้ำ ใส่น้ำตาลทราย(ส่วนที่ 2) น้ำตาลทรายแดง ให้เดือด
6. เวลาเสิร์ฟตักบัวลอยใส่ในน้ำเชื่อม (ข้อ 5)

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

ปลากระพงขาวนึ่งพริกมะนาว

y1p1J9UMf9gQmZHwhl6xySy4EJ6O3Uwng9I0-hD_mZZB8iEe_zS6B09_d-Vp2yFXokyh3MT7qHyp9U

ส่วนผสม

ปลากะพงขาว 1 ตัว

พริกขี้หนูเขียวแดงหั่นฝอย 10 เม็ด

กระเทียม 20 กลับ

ต้นหอมหั่นท่อนยาวประมาณ 1 1/2 นิ้ว 2 ต้น

น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา

น้ำซุป 3/4 ถ้วย

น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น

มะนาวหั่นแว่นบางสำหรับตกแต่ง 2 ผล

กระเทียมสำหรับโรยหน้า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ
1. ล้างปลา ขอดเกล็ดปลา ควักเหงือกและไส้ออก ตัดปลายหางปลาออก ล้างให้สะอาด บั้งตัวปลาทั้งสองด้าน จัดใส่จานสำหรับนึ่ง
2. โขลกพริกขี้หนูกระเทียมให้ละเอียด ใส่ในน้ำซุป ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือป่น ซีอิ๊วขาวและน้ำมะนาว ชิมรส เมื่อรสดี นำไปราดบนตัวปลา
3. นำไปนึ่งในน้ำเดือด ไฟแรง นานประมาณ 15-20 นาที จนสุก ยกลงตกแต่งด้วยมะนาวหั่นเป็นแว่น และพริกขี้หนูหั่น

พายเลมอน

lemonpie


ส่วนผสม 1 ปอนด์

  • คุกกี้วานิลลาตามชอบ 250 กรัม
  • เนยเหลว 60 กรัม
  • ไข่ขาว 3 ฟอง
  • น้ำตาลทรายละเอียด 175 กรัม
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
  • ครีมคัสตาร์ดสำเร็จรูป 1 ถ้วย
  • น้ำมะนาวคั้นสด 4 ช้อนโต๊ะ
  • ผงเจลาติน 15 กรัม
  • กลิ่นเลมอนตามชอบ
  • แยมเลมอน
  • อัลมอนขูดตามชอบ

วิธีทำ
1. บดคุกกี้ให้ละเอียดนำมาเคล้ากับเนยเหลวเคล้าให้เข้ากัน
2. จากนั้นนำไปใส่ลงในพิมพ์กดให้แน่นเตรียมไว้ ผสมครีมคัสตาร์ด ไข่ขาว น้ำตาล แป้งผงเจลาติน น้ำมะนาว และกลิ่นเข้าด้วยกันแล้วตีจนขึ้นฟู
3. นำมาเทลงบนพิมพ์คุกกี้นำเข้าอบด้วยความร้อน 350 ํF ประมาณ 15 นาทีจนสุก
4.  พักให้เย็นลงก่อนทาด้วยแยมเลมอนนำไปแช่ให้เย็น พร้อมเสิร์ฟ

หมี่กรอบ

 

meekrob_1

เครื่องปรุง
เส้นหมี่ 150 กรัม
กุ้งสด 100 กรัม
เนื้อหมู 100 กรัม
เต้าหู้เหลือง 1 แผ่น
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
หอมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
เต้าเจี้ยวดำ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้ม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 6-7 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มซ่า 1 ช้อนโต๊ะ
พริกป่นอย่างไม่เผ็ด 2 ช้อนชา
(หรือซอสมะเขือเทศขวด 3 ช้อนโต๊ะ)
ถั่วงอก 50 กรัม
กุยช่าย 4-5 ต้น
พริกแดง 2-3 เม็ด
กระเทียมดอง 3-4 หัว
ไข่เป็ด 2 ฟอง
ส้มซ่าปอกแต่ผิวหั่นฝอย 1 ลูก
น้ำมันสำหรับทอดเส้น 3 ถ้วย

วิธีทำ
1.แช่เส้นหมี่ในน้ำ 15 นาที ใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ แล้วผึ่งไว้พอหมาดๆ
2.ทอดในน้ำมันร้อนให้เหลืองกรอบ ไฟปานกลาง หั่นหมูชิ้นเล็กๆ ยาวๆ
3.กุ้งสดถ้าตัวโตผ่า 2 ชักเส้นดำที่หลังออก ถ้าตัวเล็กไม่ต้อง ผ่าหลังชักเส้นดำ
อย่างเดียว
4.หั่นเต้าหู้เป็นชิ้นเล็กๆขนาดก้านไม้ขีดยาว 1 ซม. ทอดให้กรอบ(ควรผึ่งแดดไว้ให้
แห้ง โดยเตรียมไว้ล่วงหน้า ให้แห้งสนิท เวลาทอดจะพองดี)
5.ไข่เป็ดตีพอแตก คนให้เข้ากัน ใส่กระชอนในกระทะที่มีน้ำมันร้อน ไฟปานกลาง
แกว่งไปมาสูงๆ พอประมาณ ไข่จะลงกระทะเป็นสายๆฝอยๆ พอเต็มกระทะยกขึ้น
ทอดให้ใข่เหลืองกรอบแล้วตักขึ้น ทำจนไข่หมด
6. ผัดเนื้อหมูกับน้ำมัน 1/4 ถ้วย พอหมดน้ำเนื้อหมูแห้ง ตักขึ้น ใส่กุ้งทำเช่นเดียวกัน
7.น้ำมันที่เหลือผัดหอมสับและกระเทียมสับให้หอม ใส่น้ำปรุงรสคือ น้ำตาล น้ำส้ม
เต้าเจี้ยว น้ำปลา ซอสมะเขือเทศ ผัดจนข้น ใส่น้ำมะนาว น้ำส้มซ่า ผัดไฟอ่อนๆ
ชิมรสจัด 3 รส ใส่เส้นหมี่ลงคลุกเร็วๆให้ทั่ว ใส่เต้าหู้ทอด แบ่งไข่ฝอยใส่ครึ่งหนึ่ง
8.จัดใส่จาน โรยไข่ฝอย กระเทียมดองสับ ผิวส้มซ่าหั่นละเอียด ผักชี พริกแดง
แต่งด้วยถั่วงอกดิบ ใบกุยช่าย

เคล็ดลับของหมี่กรอบ
ต้องใช้เส้นหมี่ที่ดีที่สุด เป็นเส้นหมี่ที่ทำมาจากแป้งข้าวเจ้าไม่ปนแป้งมัน ซึ่ง
สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปในอำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ก็จะทำให้เส้นหมี่
นั้นกรอบทน แต่ถ้าเป็นเส้นหมี่ที่ปนแป้งมันจะกรอบไม่ทน และอีกข้อหนึ่งคือ
เครื่องปรุงชนิดต่างๆต้องแห้ง

ปูนิ่มทอดกระเทียม

crab01

เครื่องปรุง
ปู นิ่มหั่นเป็นชิ้น 2-3 ตัว แป้งทอดกรอบ 1 ซอง รากผักชีและกระเทียมปั่นให้เข้ากัน 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1-2 ช้อนชา พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมตำพอแหลกทอดกรอบ 1 ถ้วย น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1. ผสมรากผักชีกระเทียมปั่นกับ พริกไทย น้ำตาล และเกลือให้เข้ากัน นำชิ้นปูนิ่มลงคลุกเคล้าให้ทั่ว
2. จากนั้นนำไปเคล้ากับแป้งทอดกรอบพอให้แป้งติด ถ้าแห้งเกินไปให้ใช้น้ำเติมได้เล็กน้อย แล้วนำไปทอดในน้ำมันจนสุกพอเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันก่อน จัดใส่จานพร้อมกระเทียมทอดกรอบตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ

ลาบเป็ดทอด

lappedtod

เครื่องปรุง

- เนื้อเป็ดสับ (ส่วนอก)
- แป้งโกกิ
- ข่าสับ
- หอมแดงซอย
- ผักชีฝรั่งซอย
- ต้นหอมซอย
- ใบมะกรูดซอย
- ข้าวคั่ว
-  พริกป่น น้ำมะนาว น้ำปลา พริกแห้งสำหรับโรยหน้า
- น้ำมัน

วิธีทำ

1. นำเป็ดสับไปรวนในกระทะให้สุก จากนั้นนำขึ้นพักไว้
2. นำข่าสับ หอมแดงซอย ผักชีฝรั่งซอย ต้นหอมซอย ใบมะกรูดซอย ข้าวคั่ว พริกป่น น้ำมะนาว น้ำปลา มาผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำเป็ดที่รวนไว้ลงไปคลุกเคล้าจนเข้ากัน (สูตรสำเร็จก็คือลาบนั่นเอง) จากนั้นใส่แป้งโกกิตามลงไป
3. นำน้ำมันตั้งในกระทะให้ร้อนจัด จากนั้นตักเนื้อลาบเป็ดที่ผสมแป้งแล้วลงไปทอด พอให้มีสีเหลืองกรอบ นำขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน รับประทานคู่กับผักต่าง ๆ

วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552

ขนมสำปันนี

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

ขนมหวานไทย : ขนมสำปันนี

* แป้งมัน 3 1/2 ถ้วยตวง

* น้ำตาลทราย 3 1/2 ถ้วยตวง

* มะพร้าวขูด 500 กรัม

* น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วยตวง

* สีผสมอาหาร

* เทียนอบ

ขนมหวานไทย : ขนมสำปันนีขนมหวานไทย : ขนมสำปันนี

 

      วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน

1. นำน้ำลอยดอกมะลิไปผสมกับมะพร้าวขูด คั้นเป็นน้ำกะทิออกมา จากนั้นใสน้ำตาลทรายลงไป แล้วนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ เคี่ยวจนงวดเป็นยางมะตูม ปิดไฟและทิ้งไว้ให้เย็น

2. นำแป้งมันไปคั่วบนกระทะให้สุก เสร็จแล้วปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น

3. ผสมแป้งที่คั่วแล้ว (ขั้นตอนที่สอง) กับน้ำกะทิเชื่อม (ขั้นตอนที่ 1) และสีผสมอาหาร คนจนส่วนผสมละลายทั่วและเข้ากันดี จึงนำไปอัดใส่แม่พิมพ์ที่เตรียมไว้ อบด้วยเทียน

4. จัดใส่จานเสริฟ รับประทานได้ทันที

ขนมเกสรลำเจียก

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

ขนมหวานไทย : ขนมเกสรลำเจียก

* แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง (สำหรับทำตัวแป้ง)

* หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง (สำหรับทำตัวแป้ง)

* มะพร้าวขูด 1 ถ้วยตวง (สำหรับทำไส้)

* น้ำตาลมะพร้าว 1 1/2 ถ้วยตวง (สำหรับทำไส้)

* เทียนอบ

ขนมหวานไทย : ขนมเกสรลำเจียกขนมหวานไทย : ขนมดอกลำเจียก

 

      วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน

1. เตรียมทำไส้โดยนำน้ำตาลมะพร้าวไปผสมกับน้ำเล็กน้อย นำไปตั้งไฟให้ละลาย จึงใส่มะพร้าวขูด เคี่ยวสักพักจึงนำไปอบควันเทียน

2. ทำตัวแป้งโดย นำแป้งข้าวเหนียวนวดกับหัวกะทิ ถ้าชื้นมาก ก็ผึ่งให้หมาด จึงจะยีได้สะดวก แต่แป้งต้องชื้นอยู่เสมอ

3. ตั้งกระทะแบนบนไฟอ่อนๆ ให้ยีแป้งผ่านกระชอนลวดตาละเอียด ๆ หรือแล่ง โรยให้แป้งบางเสมอกันเป็นแผ่นกลม

4. พอแป้งสุก ตักไส้ใส่บนตัวแป้ง ม้วนปิดไส้ แซะขึ้นเรียงใส่โถ อบด้วยควันเทียนให้หอม

ไก่ห่อใบเตย

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

 

ไก่ห่อใบเตย

* เนื้ออกไก่ 500 กรัม (ลอกหนัง, หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเพื่อให้ง่ายต่อการห่อใบเตย)

* รากผักชี 5 ต้น (ทำความสะอาดและสับให้ละเอียด)

* กระเทียมทุบ 4 กลีบ

* พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

* ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

* ซ๊อสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ

* น้ำมันงา 1/2 ช้อนโต๊ะ

* ใบเตย (ล้างและทำความสะอาด เพื่อใช้สำหรับห่อไก่)

* น้ำมันพืชสำหรับทอด

ส่วนผสม + เครื่องปรุง น้ำจิ้มไก่ห่อใบเตย

* น้ำตาล 5 ช้อนโต๊ะ, น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ, ซิอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ

* ซิอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ, เกลือ 1/2 ช้อนชา, งาคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำจิ้มไก่ห่อใบเตย ไก่ห่อใบเตย

 

     วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ผสมกระเทียม, พริกไทย, ซ๊อสหอยนางรม, รากผักชี, ซิอิ๊วขาว, น้ำมันงาและเนื้อไก่เข้าด้วยกัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง

2. ระหว่างรอเนื้อไก่ที่หมัก เตรียมทำน้ำจิ้ม โดยนำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในกระทะและนำไปตั้งไฟอ่อนๆ คนจนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด รอจนกระทั่งส่วนผสมเดือดจึงปิดไฟ และตักใส่ถ้วยน้ำจิ้มรอเสริฟ

3. นำเนื้อไก่ที่หมักแล้วไปห่อกับใบเตยที่เตรียมไว้ (สำหรับท่านที่ไม่เคยห่อ คลิ๊ก วิธีห่อไก่ใบเตย เพื่อดูวิธีห่อง่ายๆ ทีละขั้นตอน)

4. นำไก่ที่ห่อเสร็จแล้วไปนึ่งให้สุกประมาณ 10 นาที หลังจากนึ่งเสร็จแล้วจึงนำไก่ไปทอดจนสุกทั่ว นำออกมาสะเด็ดน้ำมัน

5. จัดไก่ห่อใบเตยในจานให้สวยงาน เสริฟพร้อมน้ำจิ้ม กับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะเป็นของว่างทานเล่นก็ได้

(สำหรับ 2-4 ท่าน)

ปูจ๋า

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

ปูจ๋า

* เนื้อปู 350 กรัม

* หมูสับ 100 กรัม

* หอมใหญ่สับละเอียด 100 กรัม

* ไข่ไก่ 2 ฟอง (ตีและคนให้เข้ากัน)

* ผักชีซอยละเอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ

* กระเทียมสับ 1/2 ช้อนโต๊ะ

* พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ

* ซ๊อสพริก

* กระดองปู 6 อัน

* พริกชี้ฟ้าหั่นตามยาว (สำหรับแต่งอาหาร)

* ผักชี (สำหรับแต่งอาหาร)

ปูสดปูจ๋า

 

     วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ผสมกระเทียม, ผักชี, พริกไทย, หมูสับ, น้ำปลาและน้ำตาลเข้าด้วยกัน คลุกจนเข้ากันทั่ว หมักทิ้งไว้ 15 นาที

2. นำส่วนผสมที่หมักไว้แล้ว ใส่เข้าไปในกระดองปู จากนั้นจึงนำไปนึ่งประมาณ 15 นาทีหรือจนกระทั่งสุก

3. นำกระดองปูที่นึ่งไว้แล้วไปชุบไข่ไก่

4. นำกระทะไปตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพอประมาณสำหรับทอด เมื่อน้ำมันร้อนได้ที่ นำกระดองปูลงไปทอด โดยหันเอาหน้าที่เป็นเนื้อปู+หมูลงไปทอด รอจนกระทั่งสุก จึงนำออกมาสะเด็ดน้ำมัน

5. จัดใส่จาน และแต่งหน้าด้วยผักชีและพริก เสริฟพร้อมซ๊อสพริก และข้าวสวยร้อนๆ หรือเป็นของว่างอาหารทานเล่นก็ได้

(สำหรับ 2 ท่าน)

แกงจืดไข่น้ำ

  เครื่องปรุง + ส่วนผสม

แกงจืดไข่น้ำ

* หมูสับ 200 กรัม

* วุ้นเส้น 100 กรัม (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

* ไข่ไก่ 6 ฟอง

* น้ำมันพืช ¼ ถ้วยตวง

* กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ (ไว้โรยหน้า)

* หัวหอมใหญ่ ½ ถ้วยตวง

* น้ำซุปไก่ 6 ถ้วยตวง (หรือน้ำเปล่า)

* น้ำปลา 1/3 ถ้วยตวง

* พริกไทย 1/4 ช้อนชา

* กะหล่ำปลีหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม

* ต้นหอม 2 ต้น (หั่นยาวประมาณ 1 นิ้ว)

ไข่ไก่สดแกงจืดไข่น้ำ

 

     วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ตั้งไฟในกระทะ ใส่น้ำมัน รอจนกระทั่งน้ำมันร้อน จึงใส่ไข่ลงไปเจียวให้เหลือง (หนึ่งข้างใช้เวลาทอด ประมาณ 2 นาที) เมื่อสุกแล้วนำออกมาหั่นเป็นชิ้นๆ เตรียมไว้ใช้ในขั้นตอนต่อไป

2. นำน้ำซุป (หรือน้ำเปล่า) ใส่หม้อและนำไปตั้งไฟ รอจนกระทั่งเดือด ใส่หมูสับ คนจนกระทั่งหมูสุก

3. ใส่หอมใหญ่, กะหล่ำปลี, ต้นหอม ต้มสักพักจึงใส่ไข่เจียวที่หั่นเป็นชิ้นๆไว้แล้ว และเครื่องปรุงที่เหลือทั้งหมด

4. ต้มจนเดือดอีกครั้งจึงตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว และเสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

(สำหรับ 2 ท่าน)

วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2552

ทอดมันหมูแดง

ทอดมันหมูแดง

ส่วนผสม

  1. เนื้อหมูบดละเอียด 500 กรัม
  2. ผงทำหมูแดง 1 ซอง
  3. ถั่วพูหั่นบาง 100 กรัม
  4. ใบมะกรูดหั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
  5. พริกชี้ฟ้าเขียว-แดงหั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
  6. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
  7. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
  8. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  9. ผักสดตามชอบ
  10. น้ำจิ้มอาจาดและเส้นหมี่ลวกสุกคลุกน้ำมันกระเทียมเจียว
  11. น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ

  1. นวดเนื้อหมูบดกับผงทำหมูแดง เกลือป่น ไข่ไก่และแป้งข้าวโพดจนเหนียว
  2. เติมถั่วพู ใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้าเขียว-แดง เคล้าผสมจนเข้ากันดี
  3. ทอดในน้ำมันพืชที่ร้อนจัด ใช้ไฟปานกลางจนสุกเหลือง ตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
  4. จัดลงจานสำหรับเสิร์ฟ รับประทานคู่กับน้ำจิ้มอาจาด ผักสดและเส้นหมี่ลวกสุกที่คลุกกับน้ำมันกระเทียมเจียวเตรียมไว้แล้ว

ไก่กลางทอดพริกเกลือ

ไก่ทอดพริกเกลือ

ส่วนผสม

  1. ไก่วงจรคุณภาพ
  2. กระเทียมสด
  3. ขิงบด
  4. ซีอิ้วเกาหลี หรือ ซอสคิกโคมาน ซีอิ้วขาว
  5. เหล้าเกาหลี 
  6. น้ำส้มสายชู
  7. น้ำผึ้ง
  8. แป้งอเนกประสงค์
  9. แป้งมัน
  10. กระเทียมแว่นทอดกรอบ
  11. พริกชี้ฟ้าสีเหลืองหรือแดงไร้เมล็ดทอดกรอบ

วิธีทำ

  1. ล้างไก่ให้สะอาด จากนั้นสะเด็ดน้ำให้แห้ง
  2. นำมาหมักด้วยกระเทียมและขิงบด ซีอิ้วเกาหลี หรือ ซอสคิกโคมาน หรือซีอิ้วขาว ใช้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ สำหรับทาน 2 คน
  3. ใส่เหล้าเกาหลี หรือใช้มิลินแทนก็ได้ ตามด้วยเหยาะน้ำส้มสายชูนิดหนึ่ง
  4. สุดท้ายตักน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา เพื่อเอาสีสันและกลิ่นหอม อีกทั้งเวลาทอดจะมีความเหนียวและเยิ้ม นำเข้าตู้เย็นประมาณ 15–20 นาที เพื่อให้ไก่ดูดซึมเครื่องปรุงรส
  5. เมื่อต้องการรับประทาน เอาออกมาคลุกแป้งอเนกประสงค์บวกแป้งมัน ในอัตราแป้งอเนกประสงค์มากกว่าประมาณ 1/4 ส่วน แล้วนำมาห่มผ้าไก่ที่หมักในตู้เย็น เพราะไม่อย่างนั้นเมื่อน้ำมันเจอผิวไก่เลยจะไม่สวย
  6. นำลงทอดในน้ำมัน ที่ร้อนปานกลาง พอไก่ทอดสุกได้ที่แล้วก็ตักขึ้น จัดใส่จาน แต่งหน้าด้วยกระเทียมแว่นทอดกรอบและ พริกชี้ฟ้าสีเหลืองหรือแดงไร้เมล็ดทอดกรอบเช่นกัน

ขนมจีนน้ำยากะทิ

ขนมจีนน้ำยากะทิ

ส่วนผสม

  1. พริกแห้ง 50 กรัม
  2. มะพร้าวขูด 1 กิโลกรัม
  3. กระเทียม 100 กรัม
  4. คั้นหัวกะทิ 2 ถ้วย หาง 8 ถ้วย
  5. ตะไคร้ 50 กรัม
  6. น้ำปลา 1/2 ถ้วยตวง
  7. ปลาช่อน 1 กิโลกรัม
  8. น้ำปลาร้าหรือ 1/2 ถ้วยตวง
  9. หัวหอม 100 กรัม
  10. ปลาอินทรีย์เค็ม 1/4 ถ้วยตวง
  11. ข่า 2 ช้อนโต๊ะ
  12. ขนมจีน 2 กิโลกรัม
  13. กระชาย 500 กรัม
  14. น้ำสำหรับต้มปลา 6 ถ้วยตวง

วิธีทำ

  1. เตรียมเครื่องน้ำพริกทั้งหมดลงต้มพร้อมน้ำเปล่า พอเดือดใส่ปลาที่ล้างสะอาดแล้วลงต้มให้สุก
  2. ตักเครื่องน้ำพริกและปลาขึ้น แกะก้างและหนัง โขลกเนื้อปลาให้ละเอียดพักไว้
  3. โขลกเครื่องน้ำพริกที่ตักขึ้นพักไว้ให้ละเอียด
  4. ใส่น้ำต้มปลาละลายเครื่องน้ำพริก กรองเอาแต่น้ำพริกข้น ๆ ไม่ใช้กาก ทำเช่นนี้ 2-3 ครั้งจนน้ำพริกสีจาง
  5. ใส่น้ำพริกผสมกับหัวกะทิตั้งไฟพอเดือด ใส่เนื้อปลา เติมหางกะทิ น้ำปลา น้ำปลาร้า เคี่ยวไฟอ่อน จนน้ำยาเริ่มข้น ชิมรส
  6. รับประทานกับผักเหมือด เช่น ถั่วงอก ผักกาดดอง ถั่วฝักยาว ผักกระเฉด พริกป่น ไข่ต้ม ฯลฯ

เกี๊ยวกุ้งกรอบ

เกี๊ยวท�ด

ส่วนผสม

  1. แป้งเกี๊ยว 1 ห่อ
  2. เนื้อกุ้งสด 1 1/2 ถ้วย
  3. รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
  4. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
  5. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  6. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนชา
  7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  8. แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำมัน 2 ถ้วย

วิธีทำ

  1. โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยป่นละเอียด เคล้ากับกุ้งบดให้เข้ากัน
  2. ใส่ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย แป้งสาลี เคล้าให้เข้ากัน
  3. ตักไส้ใส่ในแผ่นเกี๊ยวตรงกลาง ทาน้ำให้ทั่วขอบแผ่นด้านใน พับครึ่งเป็นสามเหลี่ยม จับปลายแผ่นเกี๊ยวให้พับซ้อนกัน
  4. ทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด ไฟปานกลาง พอเหลืองทั่วตักขึ้นทานกับน้ำจิ้ม

หมูสามชั้นต้มซอสญี่ปุ่น

Buta_kakuni

ส่วนผสม

  1. หมูสามชั้น 2 ชิ้น
  2. ซีอิ้วญี่ปุ่น 4 ช้อนโต๊ะ
  3. มิริน 1 ช้อนโต๊ะ
  4. สาเก 3/4 ถ้วย
  5. น้ำตาลทราย 2–3 ช้อนโต๊ะ
  6. มัสตาร์ด เล็กน้อย

วิธีทำ

  1. ล้างหมูสามชั้นให้สะอาด เตรียมหม้อใส่น้ำกะระดับพอท่วมชิ้นหมู ตวงสาเกใส่ 1/4 ถ้วย ตั้งไฟ พอเดือดใส่หมูสามชั้นทั้งเส้น ต้มไปเรื่อยๆ จนหมูสุกเปื่อยนุ่ม ต้องใช้เวลาต้มนานพอสมควร จนไขมันจากหมูลอยขึ้นมา (เป็นการแยกไขมันออกจากเนื้อหมู)
  2. หมูสามชั้นที่ต้มสุกจนเปื่อยนุ่ม นำไปล้างด้วยน้ำเปล่าแล้วหั่นเป็นชิ้นใหญ่พอเหมาะ จากนั้นเตรียมกระทะใส่น้ำ 2–3 ถ้วย เติมส่วนผสม ซีอิ้วญี่ปุ่น น้ำตาลทราย มิริน และสาเกส่วนที่เหลือ 2/4 ถ้วย ต้มให้เดือด
  3. เมื่อส่วนผสมเดือดใส่หมูสามชั้นที่หั่นแล้วลงไป หรี่ไฟให้อ่อนมาก ต้มเคี่ยวไฟอ่อนไปเรื่อยๆ จนน้ำและส่วนผสมซึมเข้าเนื้อหมู ตักใส่จานรับประทานกับมัสตาร์ดได้เลย

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552

ขนมกล้วย

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* กล้วยน้ำว้า 8 - 10 ลูก (ปอกเปลือกและบดให้เละ)

* แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง

* แป้งมัน 1/4 ถ้วยตวง

* น้ำตาล 1 1/4 ถ้วยตวง

* เกลือป่น 1/2 ช้่อนชา

* หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง

* เนื้อมะพร้าวขูด 2 ถ้วยตวง

กล้วยน้ำว้าขนมกล้วย (Steamed Banana Cake)

 

     วิธีทำทีละขั้นตอน

1. นำกล้วย, แป้งข้าวเจ้า, แป้งมัน, น้ำตาล, เกลือ, หัวกะทิ และ เนื้อมะพร้าวขูด (ประมาณ 3/4 ส่วนของทั้งหมด) ผสมกัน จากนั้นนวดด้วยมือจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว

2. ตักส่วนผสมในข้อหนึ่งลงในถ้วยหรือแบบที่ต้องการ หรือจะใช้ใบตองห่อก็ได้ แล้วแต่ความสะดวก เสร็จแล้วนำเนื้อมะพร้าวขูดที่เหลือโรยหน้า

3. นำไปนึ่งประมาณ 30 นาที หรืออาจนำไปอบโดยใช้ความร้อนประมาณ 180 องศาเซลเซียส (360 องศาฟาเรนไฮต์) เป็นเวลา 30 นาทีเช่นกัน

4. เมื่อขนมกล้วยสุกแล้ว ให้นำออกจากแบบ สามารถเสริฟได้ทั้งขณะร้อนหรือเย็นแล้ว

สังขยาฟักทอง

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

ขนมหวานไทย : สังขยาฟักทอง

* ฟักทอง 1 ลูก (น้ำหนักประมาณ 400 - 600 กรัม)

* ไข่่ 4 ฟอง

* หัวกะทิ 3/4 ถ้วยตวง

* น้ำตาลปิ๊บ 1/4 ถ้วยตวง

* แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ

* เกลือป่น 1/4 ช้่อนชา

* น้ำปูนใส

ฟักทองสดขนมหวานไทย : สังขยาฟักทอง

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน

1. นำฟักทองมาตัดออกเป็นสี่เหลี่ยมบริเวณหัวขั้วจากนั้นจึงขวักเมล็ดข้างในออก จนกลวงเป็นช่องภายใน จากนั้นจึงนำไปน้ำปูนใสประมาณ 8 - 10 นาที แล้วจึงนำออกมาสะเด็ดน้ำ (เคล็ดลับ : แช่น้ำปูนใสเพื่อไม่ให้ฟักทองแตกเวลานึ่ง)

2. ระหว่างรอฟักทองที่แช่ในน้ำปูนใส เตรียมทำสังขยาโดยผสมไข่ไก่, หัวกะทิ , แป้งข้าวเจ้า, น้ำตาลปิ๊บ และเกลือ คนจนส่วนผสมเข้ากันดี

3. นำส่วนผสมสังขยาที่ทำในขั้นตอนที่สองเทลงในฟักทอง จากนั้นจึงนำไปนึ่งประมาณ 20 - 25 นาที กรณีเสริฟเป็นลูกฟักทอง ก็นำฝาที่ตัดออกไปนึ่งด้วย ถ้าแบ่งเสริฟก็หั่นเป็นชิ้นๆ เพื่อความสวยงามและน่ารับประทาน เวลาหั่นควรระวังไม่ให้สังขยาเละ

 

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ทอดมันปลา่

THAI FISH CAKES

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

ทอดมันปลา

* เนื้อปลาสับหรือบด 500 กรัม

* ไข่ไก่ 1 ฟอง

* ถั่วฝักยาว 1/2 ถ้วยตวง (หั่นเป็นชิ้นบาง)

* ใบมะกรูดซอยละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาล 1 ช้อนชา

* เกลือ 1 ช้อนชา

* น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ

* น้ำมันสำหรับทอด 3 ถ้วยตวง

เครื่องปรุง + ส่วนผสมน้ำจิ้มทอดมัน

     * แตงกวาหั่นเป็นชิ้นเล็ก 1 ถ้วยตวง

     * ถั่วลิสงคั่วแล้วนำไปบด 1/2 ถ้วยตวง

     * น้ำตาล 1/2 ถ้วยตวง

     * น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง

ถั่วฝักยาวทอดมันปลา

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. นำส่วนผสมทอดมันทั้งหมดลงในชามขนาดใหญ่ นวดด้วยมือจนส่วนผสมทั้งหมดเคล้ากันทั่ว

2. นำช้อนตักส่วนผสมออกมา 2 ช้อนโต๊ะ และปั้นเป็นแผ่นกลม (เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว) ปั้่นจนส่วนผสมหมด แล้วจึงจากนั้นจึงนำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนปานกลาง จนกระทั่งสุก

3. เสิรฟพร้อมน้ำจิ้มแตงกวา

วิธีทำน้ำจิ้มทอดมัน :

     1. ผสมน้ำตาลกับน้ำส้มสายชูลงในหม้อเ็ล็ก และนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ

     2. เมื่อน้ำตาลละลายแล้ว จึงปิดไฟและทิ้งไว้ให้เย็น

     3. ตักใส่ถ้วยน้ำจิ้ม ใส่แตงกวาและถั่วลิสงบด

(สำหรับ 2 ท่าน)

 

ส้มตำไทย

 THAI PAPAYA SALAD

  เครื่องปรุง + ส่วนผสม

สูตรอาหารไทย : ส้มตำไทย

* มะละกอดิบหั่นฝอย 2 ถ้วยตวง

* แครอทหั่นฝอย 1/2 ถ้วยตวง

* ถั่วฝักยาว 1/2 ถ้วยตวง (หั่นความยาวประมาณ 1" )

* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาลปี๊บ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

   (ถ้าไม่มีสามารถใช้น้ำตาลทรายแทนได้)

* น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

* มะเขือเทศ 1/2 ถ้วยตวง (หั่นครึ่ง)

* กุ้งแห้ง 1/3 ถ้วยตวง

* ถั่วลิสง 1/4 ถ้วยตวง

* พริกขี้หนู 10 เม็ด (ปรับเพิ่ม/ลด ตามความต้องการ)

* กระเทียมสด 5 กลีบ

ข้าวเหนียว ส้มตำไทย

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ใส่กระเทียมและพริกลงในครก ใช้สากตำพอแหลก จึงใส่กุ้งแห้งและตำต่อไปอีกสักพัก

2. ใส่น้ำตาลปี๊บ ตำต่อจนน้ำตาลละลาย จึงใส่มะละกอฝอย, แครอทฝอย, ถั่วฝักยาว, มะเขือเทศ, ถั่วลิสง ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว จากนั้นจึงตำต่อจนส่วนผสมทั้งหมดเคล้ากันทั่ว

3. ปรุงรสให้ถูกปากด้วย น้ำตาล, น้ำปลา หรือน้ำมะนาวเพิ่ม รสดั้งเดิมจะมีรสหวาน, เผ็ด และเปรี้ยวพอๆกัน

4. ตักใส่จานและโรยหน้าด้วยถั่วลิสง เสิรฟพร้อมผักสด (กะหล่ำปลี, ถั่วฝักยาว, ผักบุ้งไทย, อื่นๆ) และข้าวเหนียวร้อนๆ

(สำหรับ 2 ท่าน)